
ทะเลทรายอันร้อนระอุเชื่อว่าคงไม่มีใครอยากไปอาศัยอยู่อย่างแน่นอน เนื่องจากมันร้อน แล้ง จนอยู่ไม่ได้ ทะเลทรายรัฐเนวาดาเองก็เช่นกัน ความร้อน แล้งของมัน ไม่แตกต่างจากทะเลทรายแห่งอื่นในโลก แต่ไม่น่าเชื่อว่ามีคนไปตั้งบ้านกลางทะเลทรายบริเวณ High Nevada Desert แห่งนี้อีกด้วย
ใครเป็นเจ้าของบ้าน
เจ้าของบ้านบนพื้นที่สุดอันตรายแห่งนี้ก็คือ ฟาบริซิโอ ลอนโดลิโน และ ซิโมนา เออโคเลนิ สองสามีภรรยาคู่หนึ่ง ทั้งคู่ไปตั้งบ้านชั้นเดียวบนพื้นที่ราบสูงบนทะเลทรายเนวาดา ทั้งคู่ให้เหตุผลว่ามาเที่ยวและชื่นชอบพื้นที่แทบนี้โดยเฉพาะ หุบเขามรณะ เลยทำให้คิดตัดสินใจตั้งรกรากสร้างบ้านในนี้เสียเลย
ปริศนาจากพ่อ
อีกหนึ่งเรื่องที่ทำให้ทั้งสองเลือกอยู่ที่นี้ เป็นเพราะว่า พ่อของซิโมนา เออโคเลนิ ได้ทิ้งปริศนาเอาไว้ประการหนึ่งนั่นคือ คำว่า Zabriskie Point พ่อของเค้าได้พูดไว้ก่อนตาย ทำให้ทั้งสองเกิดความสงสัยมากว่า คำนี้มันคืออะไร มันคือบริเวณไหน ตรงนั้นมีอะไรรอพวกเค้าอยู่ อาจจะเป็นขุมสมบัติที่พ่อไปพบเจอก็เป็นได้ หรืออาจจะเป็นอะไรสักอย่างที่มีความสำคัญอย่างมาก เค้าทั้งสองเชื่อกันแบบนั้น มาสร้างบ้านตรงนี้เพื่อค้นหา
สร้างบ้านได้หรือไม่
พื้นที่ทะเลทรายเนวาดา หลายคนอาจจะนึกภาพทะเลทรายแบบทะเลทรายซาฮารา ที่มองไปทางไหนก็มีแต่ทรายแต่เนวาดาไม่ใช่แบบนั้น พื้นที่ของพวกเค้าเป็นทะเลทรายที่ราบสูง เป็นทะเลทรายแบบหินมากกว่า นั่นทำให้พื้นดินตรงนั้นแข็งพอจะรับน้ำหนักบ้านของพวกเค้าได้ หากเป็นพื้นที่ทรายล้วน ดินน่าจะยวบจนไม่สามารถสร้างสิ่งปลูกสร้างอะไรได้
ข้อดีของบ้านนี้
บ้านในทะเลทรายที่ราบสูงนั้น มีข้อดีอย่างไร คำตอบเลยคือ พวกเค้ามีพื้นที่ อาณาเขต บริเวณกว้างใหญ่มาก ไม่มีเพื่อนบ้าน ไม่มีคนอยู่ ดังนั้นจะทำอะไรก็ตามสบายเลย ส่วนอันตรายจากสัตว์ร้ายก็มีเพียงแค่งูหางกระดิ่งที่อาจจะโผล่มาทักทายรอบบ้าน หรือ แมงป่องที่ขึ้นมาหากิน (ตัวนี้มาบ่อยจนน่ากลัว)
ข้อเสียของบ้านหลังนี้
หากไม่นับเรื่องของอากาศร้อนแล้ว ข้อเสียของบ้านหลังนี้คงเป็นความห่างไกลจากชุมชนที่พวกเค้าอาจจะเหงาบ้าง (มองไปนอกหน้าต่างไม่เจอใครก็เหงานะ) น้ำก็ต้องสูบขึ้นมาใช้จากใต้ดินเป็นหลัก ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการขับรถเพื่อเข้าเมืองมาทำงาน ลูกไปโรงเรียน หรือแม้แต่ซื้อของใช้ หากขับรถไหว พร้อมเจอสภาพถนนที่ยิ่งกว่าลูกรังบ้านเราล่ะก็ ก็ถือว่าเป็นบ้านแห่งความสุขอีกหลังหนึ่ง